ประเภทของคนที่ไปทัวร์และสถานที่ๆควรไปเยือนตอนจบ

hongkong-0022

และแล้วก็มาถึงกลุ่มทัวร์ฮ่องกงกลุ่มสุดท้ายที่ต้องบอกครับว่าคนในกลุ่มนี้นั้นในสมัยก่อนอาจจะไม่เยอะมากเพราะเนื่องจากยังไม่ชัดเจนจึงไปรวมๆ กันกับกลุ่มทัวร์ฮ่องกงเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและกลุ่มทัวร์แสวงบุญแต่ในปัจจุบันนี้คนกลุ่มนี้เริ่มมีมากขึ้นและชัดเจนมากขึ้นจนกระทั่งเป็น unique ซึ่กลุ่มสุดท้ายที่ว่านี้ก็คือกลุ่มคนที่ไปทัวร์ฮ่องกงเพื่อการช้อปชิมนั่นเองครับ

               คนในกลุ่มทัวร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่ไม่มีกลุ่มอายุตายตัว อาจจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยสูงอายุก็ได้แล้วแต่กรณีแต่จุดเด่นๆ ของคนกลุ่มนี้ก็คือไปเยือนฮ่องกงเพื่อหาแหล่งช้อปปิ้งสินค้าที่แปลกใหม่ ล้ำสมัยแหวกแนว รวมไปถึงหาที่ชิมอาหารต้นตำรับของฮ่องกงโดยเฉพาะซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มักเป็นคนที่เคยไปทัวร์ฮ่องกงมาก่อนหน้านี้แล้ว

               สถานที่สำหรับกรุ๊ปทัวร์ในกลุ่มนี้ที่อยากแนะนำก็คือย่านจิมซาจุ่ยบริเวณถนนนาธานครับเพราะที่นั่นถือว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่รวมร้านขายสินค้ามากมายหลายร้อยร้านให้ได้เลือกหากันรวมไปถึงอาหารอร่อยๆ ทั้งในรูปแบบของภัตตาคารหรือร้านอาหารข้างถนนก็มีให้เลือกได้ชิมกันอย่างมากมายเรียกได้ว่าถนนสายนี้ยามค่ำคืนไม่เคยหลับใหลกันเลยทีเดียวครับส่วนใครที่อยากได้ของที่ประมาณว่าแสดงชัดเจนว่าซื้อมาจากฮ่องกงอย่างแน่นอนก็สามารถไปตามสถานที่ท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ของฮ่องกงเช่น ฮ่องกงดีสนีย์แลนด์หรือ Victoria Peak ก็ได้ครับเพราะที่นั่นเขาจะมี Souvenir หรือของที่ระลึกที่ตีตราของสถานที่ของเขาอยู่รับรองว่าหากซื้อมาฝากคนที่ไปไทยเขาจะรู้ได้ทันทีว่าเราไปเที่ยวฮ่องกงมา

คลองโอตารุ

japan-0022คราวที่แล้วผมได้พาคนที่คิดอยากไปทัวร์ญี่ปุ่นแถบฮอกไกโดได้ไปรู้จักกับทะเลสาบที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งอย่างทะเลสาบโทยะไปเชื่อว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นหลายๆ คนคงอยากไปเที่ยวกันอย่างแน่นอนและในวันนี้ผมก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบใกล้เคียงกันกับทะเลสาบโทยะให้ได้ไปเยี่ยมชมอีกสถานที่หนึ่งนะครับรับรองได้ว่าเด็ดขาดไม่แพ้กันเลยทีเดียวเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปรู้จักกับสถานที่แห่งนี้ สถานที่ๆ เรียกกันว่า “คลองโอตารุ” ครับ

               คลองโอตารุนั้นเดิมทีเป็นคลองที่สร้างขึ้นจากการถมทะเลเพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางเพื่อการขนถ่ายสินค้าจากเรือลำใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายลำเล็กเพื่อนำสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดังโดยคลองแห่งนี้ได้สร้างเสร็จเมื่อปี 1923 แต่ต่อมาภายหลังเมื่อได้มีการยกเลิกใช้คลองดังกล่าวในการขนถ่ายสินค้าจึงได้ถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อสร้างเป็นถนนหลวงสายสิบเจ็ดแทนส่วนคลองอีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ได้ปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการใช้อิฐสีแดงปรับปรุงทางเดินเลียบคลองเพื่อให้สามารถเดินเล่นได้

ในปัจจุบันคลองโอตารุถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์ญี่ปุ่นมักจะแวะมาถ่ายรูปกับคลองแห่งนี้เสมอๆ โดยมีฉากพื้นหลังเป็นอาคารอิฐสีแดง และโกดังที่เคยใช้เก็บสินค้าในอดีตนั้นปัจจุบันได้มีการปรับปรุงภายในเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกส่วนคนที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศของโอตารุในรูปแบบโบราณทางสถานที่แห่งนี้เขาก็มีรถลากแบบสมัยก่อนไว้คอยให้บริการด้วยครับ

องค์หญิงชา-มย็อง ตำนานรักสามเศร้าแห่งเกาหลี

korea-0023คงไม่แปลกเลยที่จะบอกว่า วันนี้ทัวร์เกาหลี จะพาคุณไปชมสถานที่ย้อนรอย ตามแบบฉบับที่ทัวร์อื่นๆทำกัน  เพราะถ้าเอ่ยถึงประเทศเกาหลี  คนไทยก็จะนึกถึงการท่องเที่ยวตามรอยซีรีย์หรือละครดังนั่นเอง  ใครที่เป็นแฟนคลับพวกหนังหรือซีรีย์เกาหลี คงเคยได้ยินชื่อ องค์หญิงชา-มย็อง และวันนี้ทัวร์เกาหลี จะมาเล่าตำนานรักของเธอให้ฟังกัน  เพราะเรื่องราวของ องค์หญิงชา-มย็อง  ถือเป็นตำนานรักสามเศร้าที่ถูกกล่าวขานว่าน่าเศร้าสลดเป็นที่สุดเรื่องหนึ่ง ทั้งเป็นที่พิสูจน์ถึงความรัก ภาระหน้าที่และความเป็นจริง มากทีสุด และโด่งดังยิ่งขึ้นในเวลาต่อมาเมื่อนำมาทำเป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์

ภายหลังจากที่ได้เป็นองครักษ์ประจำพระองค์ขององค์ชายโฮดง บุ๊กกูได้รับรู้ความจริงเรื่องชาติกำเนิดและภาระหน้าที่ที่แสนเจ็บปวด นั่นก็คือ ความจริงที่ว่าทรงเป็นองค์หญิงชา-มย็อง แห่งแคว้นนังนังและจำเป็นต้องกำจัดองค์ชายแห่งแคว้นโกคูรยอ จึงได้เสด็จกลับไปยังพระราชวังจินยาง กรุงวังกอมซอง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรนังนัง พร้อมกับได้มอบหมายหน้าที่นี้แต่เนื่องพระองค์ยังทรงมีความผิดติดตัวคือการสังหารแม่ทัพใหญ่ของนังนัง จึงได้ทำการจัดฉากการประหารองค์หญิงชา-มย็องขึ้น และองค์หญิงชา-มย็องได้ตัดสินใจบำเพ็ญเพื่อเป็นธิดาเทพ แห่งอาณาจักรนังนัง และหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับแม่ทัพใหญ่วังโฮ

ในขณะที่พระเจ้าแดมูซินกับองค์ชายโฮดงได้ว่าแผนจัดฉากเพื่อที่องค์ชายจะได้ไปเป็นไส้ศึกภายในอาณาจักรนังนัง โดยอาศัยความรักขององค์หญิงรัชทายาทแห่งนังนัง (องค์หญิงลาฮี) เป็นเครื่องมือ แต่ทว่าการยึดครองนังนังครั้งกลับไม่ง่ายนักเพราะว่านังนังได้มีกลองวิเศษที่สามารถส่งเสียงดังขึ้นมาได้เอง ชื่อว่า กลองชา-มย็อง ที่จะส่งเสียงดังเมื่อมีศึกศัตรูเข้ามา แต่ด้วยความรักขององค์หญิงนังนังที่มีให้ต่องค์ชายโฮดง ทำให้ยอมขายชาติ ทำลายกลองชา-มย็องทิ้ง และในครั้งนั้นก็ได้ทรงสังหาร องค์หญิงชา-มย็อง พระราชขนิษฐาที่พระองค์แสนชัง เนื่ององค์โฮดงที่พระองค์รัก มีใจให้องค์หญิงชา-มย็อง ด้วยมือของพระองค์เอง แต่ภายหลังโกคูรยอชนะศึก องค์ชายโฮดงได้ผิดสัญญาที่ได้ให้ไว้กับองค์หญิงนังนังที่ว่า “หากนังนังยอมสิโรราบแก่โกคูรยอโดยดีแล้ว ประชาชนนังนังจะไม่ต้องตาย เชื้อพระวงศ์จะกลายเป็นชนชั้นสูง จะไม่มีผู้ใดต้องตายหรือกลายเป็นทาส”และสุดท้ายองค์หญิงลาฮีก็ได้ถูกประชาทัณฑ์จากประชาชนโดยที่องค์ชายโฮดงไม่สามารถช่วยอะไรได้ จากเหตุการณ์ครั้งนี้องค์ชายโฮดงต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักคือ องค์หญิงชา-มย็อง และต้องรู้สึกผิดไปตลอดกาลกับ องค์หญิงลาฮี และยังกลายเป็นบุตรเขยที่สังหารพระบิดาและพระมารดาของพระชายา (องค์หญิงลาฮี)

หลังนังนังล้มสลายไปเวลา 1 ปี องค์หญิงชา-มย็องที่ผู้คิดว่าได้สิ้นพระชนม์ไปนั้นก็ได้กลับกอบกู้นังนังคืนพร้อมแม่ทัพใหญ่วังโฮและนายหญิงโม ภรรยาของแม่ทัพใหญ่วังโฮ พร้อมใจที่เต็มไปความหวงแหน คนึงหา และความแค้น ที่มีต่อองค์ชายโฮดง เช่นเดียวกับองค์ชายที่ยังคงรักและหวงแหนองค์หญิงมิเปลี่ยนแปลงไป แต่ด้วยภาระหน้าที่ทำให้ทั้งสองต้องสู้กัน ที่สุดแล้วก็ต้องสิ้นพระชนม์ด้วยกันทั้งสองพระองค์ นั้นคือ องค์หญิงชา-มย็องถูกองค์ชายโฮดงแทงด้านหลัง ในขณะที่ทั้งสองกอดกันอยู่นั้น และดาบได้แทงทะลุมาถึงองค์ชายโฮดงด้วย ทั้งคู่สิ้นพระชนม์พร้อมกัน ในเวลาเดียวกัน ที่ชายหาดวังแฮ ในอ้อมกอดของกันและกัน

อิทธิพลของนัต ต่อวิถีความเป็นอยู่ชาวพม่า – ตอนที่ 1

Myanmar-023ทัวร์พม่าได้เคยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ นัตส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่านัต คืออะไร  ทัวร์พม่าก็ขอเรียกแบบง่ายๆว่า ผีหรือภูติ  ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งความเชื่อของชาวพม่า และถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งท่มีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่เลยก็ว่าได้   โดยปกติชาวพม่า ติดต่อกับนัตในหลายรูปแบบ มีทั้งการกราบไหว้ เซ่นสรวง ลงทรง เพื่อขอความคุ้มครอง บนบานสานกล่าว หรือบัดพลีเมื่อคำขอเป็นผลสัมฤทธิ์ รูปแบบของการเซ่นไหว้นัตในเรือน นัตตามศาล และนัตที่อยู่รายรอบพระเจดีย์นั้นส่วนใหญ่กระทำคล้ายๆกัน มีพิธีรีตองและเครื่องเซ่นแตกต่างกันอยู่บ้างขึ้นอยู่กับนัตแต่ละตน นัตบางตนนิยมมังสวิรัติ กินเฉพาะผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ นัตบางตนชอบอาหารดิบ อาทิ ปลาดิบ เนื้อดิบ นัตบางตนชอบของมึนเมา ดื่มเหล้าเมายายามประทับทรง บางตนชอบพิณ  บางตนชอบขลุ่ย บางตนชอบหมวก บางตนชอบหุ่นม้า และบางตนชอบบุหรี่ เป็นต้น

      นอกจากเซ่นไหว้ด้วยสิ่งโปรดของนัตแต่ละตนแล้ว คนพม่ายังนิยมเซ่นไหว้ด้วยเครื่องบูชาที่จัดวางบนถาดหรือพาน เรียกรวมว่ากะเดาะบะแว   โดยกะเดาะบะแวประกอบด้วยผลมะพร้าว ๑ ผล กล้วย ๓-๕ หวี หมาก พลู และยาเส้น เป็นสำคัญ มะพร้าวที่ถวายต้องเป็นมะพร้าวสด คัดผลงามไร้ตำหนิ บางทีก็ทาผลมะพร้าวเป็นสีทอง อาจชะโลมด้วยน้ำหอมหรือน้ำอบกลิ่นจันทน์ ส่วนกล้วยนั้นต้องเป็นกล้วยดิบ อาจเป็นกล้วยน้ำว้าหรือกล้วยนาก ที่ทาสีทองก็มีเช่นกัน บ้างก็ตกแต่งด้วยมาลัยมะลิหรือกุหลาบ การเซ่นไหว้ด้วยมะพร้าวและกล้วยนั้น พบว่าคล้ายกับการบูชาเทพของชาวฮินดู ต่างกันที่ฮินดูจะบูชาเทพด้วยมะพร้าวที่ปอกเปลือก ส่วนมะพร้าวที่ใช้บูชานัตของชาวพม่านั้นจะถวายทั้งผล โดยไม่ปอกเปลือก และต้องเป็นผลที่มีก้านจุกติดอยู่กับขั้วอีกด้วย นอกจากเซ่นไหว้ด้วยกะเดาะบะแวตามกล่าวนี้ อาจเซ่นไหว้นัตด้วยเครื่องทรง อาทิ ผ้าคาดศีรษะที่เรียกว่าคองปอง  ผ้าคลุมไหล่หรือปะวา และผ้าโสร่งหรือโลงชี   ชาวบ้านนิยมถวายเครื่องเซ่นที่เป็นเครื่องทรงให้กับรูปปั้นนัต ชื่อ โพด่อตะจา (พระอินทร์) กับ โพโพจี (พ่อปู่) ซึ่งประทับยืนอยู่ในเขตพระเจดีย์ โดยนุ่งถวายให้กับรูปปั้นนัต บางคราวนุ่งซ้อนทับกันหลายสิบผืน เพราะต่างคนต่างก็ถวายเครื่องทรง จนรูปนัตดูอ้วนผิดสังเกต การเซ่นไหว้ด้วยกะเดาะบะแวดูจะมีพิธีรีตองน้อยที่สุด ผู้เซ่นไหว้สามารถวางเครื่องบูชาด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามในศาลนัตบางศาล จะมีผู้ประกอบพิธี ที่พม่าเรียกว่านัตเทง  คอยบริการประกอบพิธีให้แก่ผู้มาเซ่นไหว้ นัตเทงนี้จะเป็นผู้ทำหน้าที่ถวายเครื่องเซ่นและช่วยขอพรให้กับผู้เซ่นไหว้ รูปแบบจึงดูคล้ายกับการบูชาเทพเจ้าในเทวาลัยของชาวฮินดู

     ในบ้านที่บูชานัตเรือน จะมีการเซ่นไหว้เป็นประจำสม่ำเสมอ หิ้งบูชามีงมหาคีรินัตซึ่งเป็นนัตเรือนจะตั้งอยู่ภายในบ้าน โดยจะต้องตั้งติดอยู่กับผนังซ้ายส่วนหน้าของบ้าน เจ้าบ้านจะเซ่นไหว้นัตเรือนด้วยผลมะพร้าวคาดแถบผ้าสีแดง ใส่ในตะกร้าปิดม่านแดงแขวนไว้ ที่เลือกใช้มะพร้าวบูชานัตเรือนก็เพราะถือว่ามะพร้าวก็คือตัวแทนมีงมหาคีริ มะพร้าวที่จะนำมาบูชาจะต้องเป็นมะพร้าวที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป เพราะมะพร้าวที่อ่อนเกินไปนั้นจะเน่าเสียง่าย หากเป็นมะพร้าวที่แก่มากไปน้ำมะพร้าวก็จะแห้งไว ดังนั้นจึงต้องเลือกผลมะพร้าวขนาดพอดี มีรูปทรงดูงาม และไม่มีตำหนิ สำหรับแถบผ้าสีแดงที่ใช้คาดผลมะพร้าวนั้น บ้างเชื่อว่าเป็นตัวแทนของชเวเมียตหน่าผู้เป็นน้องสาวของมีงมหาคีริที่กระโดดเข้ากองไฟตายตามพี่ชาย สีแดงจึงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและเคียดแค้น บ้างเชื่อเพียงว่าสีแดงเป็นสีแทนนัต เป็นสีแห่งความกล้าหาญ ความสะดวกราบรื่น และทำมาค้าขึ้น ในภายหลังยังนิยมนำผ้าขาวมาประกอบเครื่องบูชาอีกด้วย โดยนำมาคาดอยู่ใต้ผ้าแดง ด้วยเชื่อว่าเป็นสีแทนมีงมหาคีริ หมายถึงความสุขุมเยือกเย็น บ้างกล่าวว่าเป็นสีแทนพุทธศาสนา ส่วนที่ต้องกั้นผ้าแดงไว้กับเครื่องบูชาด้วยนั้นเป็นเพราะเกรงว่าความร้อนจากแสงไฟอาจกระทบเครื่องบูชา ทั้งนี้เพราะมีงมหาคีรินั้นตายในกองเพลิง หากต้องแสงไฟก็จะทำให้มีงมหาคีริสะเทือนใจและหนีจากไป ผลก็คือบ้านนั้นก็จะอยู่ไม่เป็นสุข บ้างเชื่อว่าอาจเป็นเหตุให้ไฟไหม้บ้านได้อีกด้วย การถวายเครื่องบูชานัตเรือนนี้ถือเป็นกิจของเจ้าของบ้านที่จะต้องคอยหมั่นดูแลอยู่เสมอ คนภายนอกจะเข้ามาแตะต้องเครื่องบูชานี้ไม่ได้ เพราะอาจทำให้เจ้าบ้านเจ็บไข้ เครื่องบูชานัตเรือนนั้นมีนัยน่าสนใจอยู่ว่า ด้วยประเทศพม่าเป็นเมืองในเขตร้อนและบางท้องถิ่นก็แห้งแล้งยิ่งนักโดยเฉพาะฤดูร้อน กอปรกับบ้านช่องมักปลูกสร้างด้วยไม้ จึงมีเหตุเพลิงไหม้อยู่เสมอ ฉะนั้นการบูชามีงมหาคีริไว้ในบ้านนับว่าช่วยสร้างความอุ่นใจและเป็นเครื่องเตือนสติในเรื่องฟืนไฟได้อย่างดี ส่วนมะพร้าวที่ใช้บูชานัตนั้น ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาแผลพุพองที่เกิดจากไฟลวก จึงเหมาะที่จะใช้ถวายมีงมหาคีริ นัยว่าเพื่อเป็นยาดับร้อน การเซ่นไหว้นัตเรือนของชาวพม่านั้น นับว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อความอบอุ่นภายในบ้านเช่นเดียวกับจารีตการบูชาผีบ้านผีเรือนของชาวพื้นเมืองอื่นๆในภูมิภาคแถบนี้นั่นเอง เพียงแต่ว่ามีงมหาคีรินัตมิใช่เป็นผีบรรพบุรุษของเจ้าบ้านเท่านั้น

 นอกเหนือจากการเซ่นไหว้นัตตามกล่าวมาแล้ว ชาวพม่ายังมีการบวงสรวงลงทรงนัต เพื่อแก้บน หรือประกอบพิธีประจำปี  ซึ่งเราจะเล่าให้ท่านฟังต่อในตอนต่อไป

อาหารลาว

laos-07

บทความต่อไปนี้ต้องบอกก่อนครับว่าเหมาะสำหรับนักชิมที่กำลังคิดจะไปทัวร์ลาวว่าที่นั่นเขามีอะไรให้ได้กินกันบ้างซึ่งหากใครคิดว่าจะมีอาหารเลิศหรูหรืออลังการแบบอาหารจีน อาหารเกาหลีนั้นต้องเรียกได้ว่าคิดผิดถนัดครับเพราะลาวไม่ได้มีอาหารที่สลับซับซ้อนมากมายขนาดนั้นอย่างมากก็มีแค่เพียงขนมปังที่ได้รับอิทธิพลเมื่อคราวตอนเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศสเท่านั้นเอง

               อาหารของชนชาติลาวส่วนใหญ่นั้น เป็นอาหารที่ค่อนข้างถูกปากคนไทยและชาวเอเชียเพราะเป็นอาหารที่เน้นพืชสมุนไพรท้องถิ่นเป็นหลักเช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รวมไปถึงปลาร้าที่เป็นกรรมวิธีการหมักดองตามภูมิปัญญาชาวบ้าน อาหารที่เป็นที่นิยมของชาวลาวนั้นก็ได้แก่ลาบและตำหมากทุ่งที่คนไทยอีสานเราเรียกกันว่าตำบักหุ่งหรือส้มตำในภาษาภาคกลางนั่นเอง ส่วนข้าวที่ใช้ในการบริโภคนั้นชาวลาวมักนิยมบริโภคข้าวเหนียวมากกว่าข้าวเจ้า เพราะเนื่องจากความคุ้นเคยและอยู่ท้องเป็นหลัก

               สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์ประเทศลาวและไม่คุ้นเคยกับอาหารพื้นบ้านประจำชาติลาวเหล่านี้ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะนอกจากอาหารเหล่านี้แล้วยังมีอาหารที่เป็นผลงานอันเกิดขึ้นเมื่อคราวที่ตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศสอีกด้วยได้แก่ข้าวจี่ปาเต้หรือข้าวจี่ลาวซึ่งเป็นการนำเอาขนมปังฝรั่งเศสที่เรียกกันว่า bagette มายัดไส้ต่างๆ ลงไปตรงกลางเช่น หมูยอ หมูหยอง แจ่วบอง ผักสด หรืออื่นๆ แตกต่างกันไปตามภูมิภาค ซึ่งเจ้าข้าวจี่ปาเต้นี้นอกจากประเทศลาวเองแล้วก็ยังเป็นที่นิยมในประเทศแถบอินโดจีนอย่างกัมพูชาและเวียดนามอีกด้วย

               ส่วนตัวเลือกท้ายสุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์ลาวแล้วทานอาหารที่ว่ามาทั้งหมดไม่ได้ล่ะก็ที่นั่นเขามีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังๆ อยู่ด้วยเช่นกันหากแต่ต้องเลือกในสถานที่ๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือเป็นชุดชนที่เป็นที่รู้จักมากๆ สักหน่อยจึงจะได้เห็นครับ

หาทัวร์ให้ปลอดภัย

europe-011

ลำบากใจใช่มั้ยครับเวลาที่คุณจะเลือกหาทัวร์เที่ยวเพื่อที่จะพักผ่อนหรือว่าวันสำคัญๆของคนและคนรักลังเลอยู่นานว่าจะเลือกทัวร์ของบริษัทไหนดีอย่างการเลือกทัวร์ยุโรปเป็นตัวอย่างก็แล้วกันนะครับคุณมีแนวทางการเลือกอย่างไรบ้างเราขอเสนอแนวทางการเลือกทัวร์ยุโรปของเราเองนะครับโดยทีดังนี้

               1.เลือกตามที่เพื่อนแนะ เป็นอย่างแรกเลยครับเพราะว่าเพื่อเคยเดินทางไปทัวร์ยุโรปกับบริษัทนำเที่ยวแห่งนั้นและก็ได้รับการบริการที่ดีได้มาตรฐานเราจึงอยากให้คุณสอบถามเพื่อนของคุณก่อนเป็นอันดับแรกนะครับหรือว่าคนรู้จักก็ได้นะเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องไม่หาทางเลือกอื่นให้เสียเวลาอย่างน้อยคนที่ไปมาแล้วบอเราได้ดีที่สุดและไว้ใจได้อีกด้วย

               2.หาตามที่เค้ารีวิวว่าดี แต่ท่านต้องเลือกเข้าเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ติดอันดับระดับประเทศเลยนะครับเพราะจะเป็นแหล่งรวมการวิจารณ์เรื่องราวต่างๆมากมายดีก็บอกว่าดีไม่ดีก็บอกว่าไม่ดีตรงไปตรงมาและมีความน่าเชื่อถือเพราะนักวิจารณ์แต่ละคนล้วนเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวย่างเช่นนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปทัวร์ยุโรปบ่อยซึ่งท่านก็ลองอ่านจากการคอมเม้นของคนเหล่านี้แหละครับน้อยครั้งที่เค้าจะว่าดีแต่เราไปแล้วไม่ดีซึ่งแน่นอนครับว่าความชอบความรู้สึกของเค้าอาจจะต่างจากเราแต่ท่านเลือกอ่านของคนอื่นๆเพิ่มเติมได้เช่นกันนะครับ

               3.เลือกตามความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ได้มาตรฐานและมีการรีวิวจากลูกค้าโดยตรงผ่านเว็บไซต์เชื่อได้ว่าแนวทางนี้น่าจะได้ผลเช่นเดียวกันยังไงก็ลองพิจารณากันดู

               ผมว่าแค่นี้หาทัวร์เที่ยวก็น่าจะได้แล้วล่ะเพราะเราเลือกมากเกินไปอาจจะไม่ดีก็ได้เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้าจะเลือกให้ดีที่สุดคงนานน่าดู………

ทริปช้อปปิ้ง…ไปเช้าเย็นกลับที่ฮ่องกง

ฮ่องกงนั้นเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่เดินทางสะดวก การคมนาคมเชื่อมต่อกันหมดด้วยรถไฟฟ้า MRT ทำให้ใช้เวลาในการเดินเที่ยวได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยครั้งนี้จะมาแนะนำทริปสำหรับคนงบน้อย เวลาน้อย ด้วยการทัวร์ฮ่องกงแบบไปเช้าเย็นกลับค่ะ แพลนครั้งนี้เน้นไปที่การช้อปปิ้งสตรีทแบบประหยัด การเตรียมตัวอย่างแรกเลย เริ่มกำหนดวันที่จะไป และต้องหาเที่ยวบินกันก่อน เลือกเที่ยวเช้าสุด และรอบสุดท้ายดึกสุดค่ะ เอาให้คุ้มกันไปเลย เมื่อจองเที่ยวบินเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาวางแผนเส้นทางกัน ที่จะเดินเที่ยวได้มากที่สุดใน 1 วัน

               ทัวร์ฮ่องกงทริปนี้จะเน้นไปที่สตรีทมาเก็ตเป็นหลัก โดยเริ่มที่ Flower Market เป็นตลาดที่ขายดอกไม้โดยเฉพาะ ต้นไม้มงคล โดยตลาดเริ่มเปิดตั้งแต่ 7 โมง หลังจากเปิดหูเปิดตาด้วย สูดความสดชื่นของดอกไม้กันแล้ว ก็มาต่อกันที่ Jade market ซึ่งเป็นตลาดค้าหยกที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงเลยค่ะ มีทั้งหยกจากในประเทศและนอกประเทศ มีตั้งแต่สร้อยคอ กำไล เครื่องราง ที่สามารถซื้อเป็นของฝากเหมาะทีเดียว ปิดท้ายด้วยแหล่งช้อปปิ้งสตรีทสำหรับสาว ๆ นักช้อปโดยเฉพาะ นั่นคือ Ladies’ market จะเปิดช่วงเย็นหลัง 17.00น เป็นตลาดที่รวมสินค้าสำหรับผู้หญิงเอาไว้มากมายเลย ที่สำคัญราคาถูกมากส่วนใหญ่สินค้าจะเป็นของมือหนึ่ง

ตัวอย่างแพลนสั้น ๆ สำหรับทัวร์ฮ่องกงไปเช้าเย็นกลับนะคะ เดินเล่นตลาดชิว ๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนมุมมอง ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวฮ่องกงอีกด้วย และที่สำคัญอย่าช้อปปิ้งเพลินจนลืมกะเวลาเดินทางกลับด้วยนะคะ เดี๋ยวจะตกเครื่องเอา

« Older Entries Recent Entries »